‘ประยุทธ์’ ชม มิลลิ ช่วยผลักดัน Soft Power หลังขึ้นเวที Cochella

‘ประยุทธ์’ ชม มิลลิ ช่วยผลักดัน Soft Power หลังขึ้นเวที Cochella

โฆษกสำนักนายกฯ เผย ประยุทธ์ พร้อมผลักดัน Soft Power ชม มิลลิ แบมแบม ลิซ่า Blackpink ช่วยผลักดัน Soft power ไทย ในเวทีโลก นาย ธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีนโยบายต่อเนื่องในการสนับสนุน Soft Power และอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ของไทยให้เป็นที่รู้จักทั่วโลก พร้อมแนะนำหน่วยงานรัฐทำงานร่วมกับภาคเอกชน สนับสนุน “ตลอดห่วงโซ่อุตสาหกรรม” ครอบคลุมทั้งผู้ผลิต ศิลปิน บุคลากรเบื้องหลัง เพื่อผลักดันให้ Soft Power เกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจ

พร้อมชื่นชมความสำเร็จล่าสุดของศิลปินและเยาวชนไทยทุกแขนง 

รวมไปถึงทีมงานและบุคลากรในอุตสาหกรรมบันเทิงของไทยทั้งภาพยนตร์และดนตรีที่ทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมวัฒนธรรมไทยสู่สากล ส่งเสริม Soft Power ของไทย ให้เป็นที่รู้จักทั่วโลก

ทั้ง “ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล” และ “แบมแบม-กันต์พิมุกต์ ภูวกุล” ศิลปินเกาหลี สัญชาติไทยที่มีการนำเสนอศิลปวัฒนธรรมไทยผ่านผลงานของตนเอง รวมทั้งยังมีศิลปินนักดนตรีอิสระของไทยหลายคนที่เป็นที่ชื่นชมและได้รับความสนใจในต่างประเทศ เช่น วิภูริศ ศิริทิพย์ (Phum Viphurit) พาราไดส์ บางกอก หมอลำ อินเตอร์เนชั่นแนล แบนด์ (Paradise Bangkok International Molam Band) วงหมอลำของไทย ที่ไปสร้างชื่อเสียงทำให้วัฒนธรรมและศิลปะด้านดนตรีของไทยได้รับความสนใจในต่างประเทศ สอดคล้องกับนโยบายของนายกรัฐมนตรี ที่มุ่งส่งเสริมวัฒนธรรม 5 F ที่เป็น Soft Power ของไทยให้กลายเป็นสินค้าส่งออกทางวัฒนธรรมสำคัญของไทย ได้แก่ 1) อาหาร (Food) 2) ภาพยนตร์และวีดิทัศน์ (Film) 3) การออกแบบแฟชั่นไทย (Fashion) 4) ศิลปะการป้องกันตัวแบบไทย (Fighting) และ 5) เทศกาลประเพณีไทย (Festival)

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวเพิ่มเติมว่า นายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นว่า ด้วยเอกลักษณ์ – วัฒนธรรมไทย มีประวัติศาสตร์ยาวนานเป็นรากฐานที่เป็นทุนทางวัฒนธรรม สะท้อนผ่านอาหาร ศิลปะ วัฒนธรรม บันเทิง เพลง ภาพยนตร์และสถานที่ท่องเที่ยว กลายเป็น Soft Power ไทยที่เป็นที่รู้จักและได้รับการชื่นชมจากคนทั่วโลก เมื่อผนวกกับพลังและศักยภาพอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ของไทย ที่ประกอบด้วยศิลปินไทยที่มีความสามารถ ทีมงานบุคลากรเบื้องหลังที่มีทักษะและเชี่ยวชาญ และการสนับสนุนของภาครัฐ จะเป็นการสร้างโอกาสและช่องทางใหม่ ๆ ผลักดันอุตสาหกรรมสร้างสรรค์และ Soft Power กลายเป็นสินค้าส่งออกทางวัฒนธรรมสำคัญของไทย นำรายได้เข้าประเทศและขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย

“ส่วนตัวผมมองว่าความสำเร็จไม่ว่าจะเป็น ลิซ่า แบมแบม หรือล่าสุดของศิลปินไทย นางสาวดนุภา คณาธีรกุล (มิลลิ) ศิลปินแรปเปอร์สาวของไทยที่ได้ร่วมงานเทศกาลดนตรีและศิลปะ (Coachella) ณ เมืองแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ซึ่งก่อนจบการแสดงได้โชว์การกินข้าวเหนียวมะม่วง โดยเป็นเมนูอาหารไทยที่ได้รับความนิยมจนกลายเป็นกระแสความสนใจของสื่อโซเซียลทั้งชาวไทยและต่างชาตินั้น เป็นเรื่องที่ดีมาก เป็นอีกหนึ่งศิลปิน/เยาวชนไทย ที่ช่วยส่งเสริม Soft Power ของไทย ให้เป็นที่รู้จักทั่วโลกตามนโยบายของนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลด้วย” นายธนกร กล่าว

‘ชูวิทย์’ ซัด ‘ประชาธิปัตย์’ น่าเวทนา ปม ‘ปริญญ์’ ชี้เรื่องนี้ตายยกพรรคได้

ชูวิทย์ โพสต์แสดงความเห็นกรณี ‘ปริญญ์’ ถูกกล่าวหาล่วงละเมิดทางเพศ ชี้เรื่องนี้ทำตายยกพรรคได้ น่ากลัวกว่าศึกเลือกตั้งอีก นาย ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตหัวหน้าพรรครักประเทศไทย โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กแสดงความเห็นถึงกรณีที่ นาย ปริญญ์ พานิชภักดิ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ถูกกล่าวหาว่าได้ลงมือล่วงละเมิดทางเพศหญิงหลายราย ตามที่รายงานไปก่อนห้านี้

โดยนาย ชูวิทย์ ระบุว่า ศึกนารีพิฆาตนี้น่ากลัวกว่าศึกเลือกตั้งถึงขนาดทำพรรคตายหมู่ได้ โดยข้อความระบุว่า “ท่านอดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โดนแจ้งความทั้งคดีอนาจารล่วงละเมิดทางเพศ ข่มขืนกระทำชำเรา จากผู้หญิงไปถึง 14 รายแล้ว

บรรดาผู้ใหญ่ในพรรคสู้ “ศึกเลือกตั้ง” มาสารพัดไม่หวั่นไหว แต่เจอ “ศึกนารี” ของอดีตรองหัวหน้าพรรคเข้าไป ออกอาการ “หน้าจ๋อย” แรกๆ ให้ลิ่วล้อพรรคระดับเด็กๆ เอาอ่างมาส่องหน้ากระผมว่า คนอย่างชูวิทย์ไม่ควรมาสอนเรื่องจริยธรรม

พรรคประชาธิปัตย์ตกต่ำถึงขนาดนี้แล้วยังไม่รู้ตัวหรือ? แทนที่จะให้ระดับหัวหน้าพรรค “จุรินทร์” หรือ “ท่านชวน” รีบออกมาขอโทษสังคม กลับเอาแค่รองโฆษกฯ มาพูดแทน ศึกเลือกตั้งครั้งใด พรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยหวั่นเกรง พูดจาฉะฉาน ให้สัมภาษณ์โวหารคมกริบดั่งใบมีดโกน แต่เจอศึกนารีพิฆาตของอดีตรองหัวหน้าพรรคคนดี กลับทำตัวพูดไม่ออก บอกไม่ถูก กลายเป็นมีดโกนทื่อไปเสียอย่างนั้น

ไหนบอกว่าพรรคเป็น “สถาบัน” ก่อตั้งมาเสียนมนานกว่า 70 ปี ทำไมเสียฟอร์มเอาง่ายๆ อย่างนี้? ระบบสรรหาคัดเลือกคน ที่มีผู้หญิงเรียงแถวมาแจ้งความคดีอนาจาร ข่มขืน ไม่ใช่แค่ 2-3 คน แต่ถึงวันนี้ปาเข้าไป 14 คนแล้ว สงสัยเหลือเกินว่า ใครหนอช่างพาเหาะมาเป็นรองหัวหน้าพรรค ไม่รู้จักกิตติศัพท์กันบ้าง หรือแค่คลำดูไม่มีหางเป็นใช้ได้? บอกเลยว่า “ศึกนารีนี้ มันหนักกว่า ศึกเลือกตั้ง หลายเท่านัก”

เหยื่อถูกวางยาและข่มขืน เธอเล่าว่าเหตุเกิดที่โรงแรมแห่งหนึ่งในช่วงปี 59 โดยผู้ก่อเหตุได้ นัดปรึกษาเรื่องธุรกิจ โดยวันนั้นมีการพยายามชวนให้ดื่มแอลกอฮอลล์ โดยอ้างว่าจะทำให้การพูดคุยราบรื่น แต่เมื่อดื่มสักระยะรู้สึกแปลก แต่ถูกบังคับให้ดื่มต่อจนหมดแก้ว จากนั้นจึงเริ่มถูกลวนลามจับมือ แขน และล่วงละเมิดทางเพศ จนตื่นมาเช้าวันรุ่งขึ้น พบว่าตนเองนอนอยู่ข้างป้อม รปภ. หลังเกิดเหตุการณ์ นักการเมืองคนดังกล่าวโทร. มาพูดคุยตามปกติ แต่ตนเองตัดสินใจไม่รับสายและปิดกั้นช่องทางการติดต่อทั้งหมด เข้าแจ้งความที่ สน.ลุมพินี 18 เมษายน

Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป