ประยุทธ์ ออกมาให้สัมภาษณ์โต้ หลังถูกชาวเน็ตตั้งคำถามปม สปีช COP26 ว่าคล้าย โอบามา ชี้ผู้นำคิดเหมือนกันได้ ถาม กต. แล้วไม่มีปัญหา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนหลังจากเดินทางกลับจากการประชุม COP26 ที่นครกลาสโกว์ ประเทศสกอตแลนด์ ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ ได้ตอบในข้อสงสัยในประเด็นที่มีชาวเน็ตตั้งข้อสังเกตว่าสปีชของตนคล้ายกับของ บารัค โอบามา อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯที่มีการกล่าวถึงโลกที่สองและแผนที่สอง
ในเรื่องของถ้อยแถลงผมก็ทราบ เรื่องที่มีการวิพากษ์วิจารณ์กัน
แต่ผมไม่ให้ความสนใจ ที่มีบางคนออกมาพูดว่าเหมือนกับคนนั้นคนนี้ คำว่าผู้นำ เขาคิดเหมือนกันก็ได้ ตรงกันก็ได้ แล้วผมก็จำไม่ได้ว่าใครพูดอะไรไป ดังนั้นมันจึงอยู่ในถ้อยแถลง แล้วผมก็ถามกระทรวงการต่างประเทศว่ามีปัญหาอะไรหรือไม่ ในเรื่องของการใช้คำว่า plan B คำว่า plan B เป็นศัพท์ของกระทรวงการต่างประเทศ เวลาพูดหรือทำอะไรต่างๆก็จะมีทั้ง plan Aและ plan B ซึ่งทุกประเทศก็ใช้เหมือนกัน”นายกฯกล่าว
นายกฯ กล่าวว่า สิ่งที่ผมเน้นย้ำไปคือโลกเรามีใบเดียว เราไม่มีโลกใบใหม่อีกแล้ว พี่จะให้ลูกหลานอยู่ต่อไป ถ้าเขาทำให้โลกใบนี้เสียหาย ซึ่งในการแสดงความคิดเห็นต่างๆของบรรดาผู้นำแต่ละประเทศหรือตัวแทน ส่วนใหญ่เป็นประเทศที่รับความเดือดร้อนจากภาวะโลกร้อน ดังนั้นประเทศไทยต้องพลิกโฉมประเทศ ทั้งประเด็นความมั่นคงเศรษฐกิจและอื่นๆ ซึ่งรัฐบาลทำมาแล้วทั้งหมดแต่แต่ก็ขึ้นอยู่กับทุกคนจะมีความเข้าใจและมองอนาคตร่วมกันเราถึงจะพลิกโฉมประเทศไทยได้
“แต่ต้องมองเรื่องการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ไม่เป็นธรรมกับประชาชนหลายเรื่อง มีการโหนสถาบัน โหนเจ้าไว้ก่อน ความซวยจึงตกอยู่กับประชาชน ซึ่งพรรคเสรีรวมไทยคิดว่าไม่ควรยกเลิกมาตรา 112 แต่ควรแก้ไขกฎหมายโดยเฉพาะบทลงโทษกับผู้ที่กระทำความผิดที่มีอัตราโทษหนักเกินไปหรือไม่”
น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง ขึ้นอ่านแถลงการณ์ถึงการต่อสู้เพื่อยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ใจความระบุว่า “ตั้งแต่ปี 2563 คณะราษฎรได้ประกาศข้อเรียกร้อง 3 ประการคือ 1. ประยุทธ์ และองคาพยพ ต้องลาออก 2. ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ให้เป็นของประชาชน 3. ปฏิรูปสถาบันฯ เพื่อมุ่งหวังแก้ปัญหาบ้านเมืองจากฐานราก
ส่วนอีกฝั่งทางด้านโฆษกรัฐบาลออกมาบอกว่าไม่เห็นด้วยที่เพื่อไทยดันแก้ กฎหมายอาญา ม.112 ขนาดมีกฎหมายก็ยังกล้าจาบจ้วงสถาบันฯ วอนอย่าดำเนินการอะไรที่หวังผลทางการเมืองเพียงอย่างเดียว
‘อนุทิน’ เผย เตรียมเพิ่ม จุดฉีดวัคซีน ใน กทม. รองรับแรงงาน ตจว.
อนุทิน เผยว่าได้มอบหมายให้มีการจัดตั้ง จุดฉีดวัคซีน ใน กทม. เพิ่มเติม เพื่อรองรับแรงงานที่มาจากต่างจังหวัด นาย อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขได้ออกมาให้สัมภาษณ์ ภาพรวมของการเปิดประเทศตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. ที่ผ่านมา โดยนายอนุทินระบุว่า การผ่อนคลายกิจการและกิจกรรม ประชาชนจะกลับมาใช้ชีวิตและประกอบอาชีพต่างๆ ได้มากขึ้น
เชื่อว่าจะช่วยลดความตึงเครียดลง และมั่นใจว่าเมื่อมีการฉีดวัคซีนโควิด-19 ได้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ร่วมกับการที่ประชาชนป้องกันตนเองสูงสุดตลอดเวลา และพื้นที่ต่างๆ เคร่งครัดมาตรการ COVID Free Setting โอกาสเสี่ยงติดเชื้อจะน้อยลงมาก หรือหากติดเชื้อวัคซีนจะช่วยไม่ให้มีอาการรุนแรงหรือเสียชีวิต
โดยนาย อนุทิน ยังได้กล่าวถึงประเด็นแรงงานต่างจัดหวัดที่จะต้องกลับเข้ามาทำงานในกรุงเทพนั้น ได้มอบหมายให้อธิบดีกรมควบคุมโรค ประสานกับอธิบดีกรมการแพทย์ จัดสรรวัคซีนเพื่อฉีดให้กับแรงงานกลุ่มนี้ที่ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ โรงพยาบาลราชวิถี โรงพยาบาลเลิดสิน และสถาบันบำราศนราดูร รวมถึงเตรียมเปิดศูนย์แรกรับและส่งต่อ กระทรวงสาธารณสุข (นิมิบุตร) อีกครั้งเพื่อเป็นจุดฉีดวัคซีนเพิ่มเติม พร้อมยืนยันว่าวัคซีนมีเพียงพอ
สำหรับการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นให้กับผู้ที่ได้รับวัคซีนซิโนฟาร์ม (Sinopharm) ครบ 2 เข็มนั้น ในวันที่ 4 พ.ย.นี้ คณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค จะมีการประชุมพิจารณาเรื่องนี้ คาดว่าจะสามารถฉีดให้ได้ เนื่องจากเป็นวัคซีนเชื้อตายเช่นเดียวกับวัคซีนซิโนแวค (Sinovac)
ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า สิ่งที่น่ากังวลที่สุดจะเป็นเรื่องของราคาพลังงาน ซึ่งจากที่สำนักข่าวต่างประเทศได้รายงานว่าเริ่มมีการใช้กำลังทางทหารเกิดขึ้นในพื้นที่ดังกล่าวแล้ว รวมถึงสถานการณ์ที่เป็นปัจจัยพื้นฐานด้านการผลิตน้ำมันของโลกที่ยังมีจำกัดทำให้ราคาน้ำมันปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น กระทรวงพลังงานได้ใช้มาตรการที่มีอย่างต่อเนื่องและยังคงเตรียมมาตรการที่จะสามารถช่วยเหลือประชาชนเพิ่มเติม
“จากวิกฤตรัสเซีย-ยูเครนที่เกิดขึ้นนี้ แม้จะส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นถึงระดับ 100 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล และเกิดผลกระทบวงกว้างทั่วโลก แต่กระทรวงพลังงานจะยังคงดำเนินการอย่างเต็มที่ในการบรรเทาให้เกิดผลกระทบกับประชาชนให้น้อยที่สุด และขอให้ประชาชนเข้าใจสถานการณ์วิกฤตนี้และร่วมกันใช้พลังงานโดยเฉพาะน้ำมันอย่างประหยัดและคุ้มค่าที่สุด เพื่อผ่านวิกฤตนี้ไปด้วยกัน”นายกุลิศ กล่าว
Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป